เกี่ยวกับมูลนิธิ
มูลนิธิชีววิถี หรือ
ไบโอไทย (BIOTHAI)
ก่อตั้งขึ้นจากการรวมตัวกันของ นักกิจกรรมทางสังคม เกษตรกร นักวิชาการ ข้าราชการ และสมาชิกในชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆ ที่ตระหนักใน ประเด็นความสำคัญ ปัญหา และทางออก เกี่ยวกับการอนุรักษ์พัฒนา ใช้ ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพ/ภูมิปัญญาท้องถิ่น สิทธิชุมชน ความมั่นคง/อธิปไตยทางอาหาร เกษตรกรรม/การพัฒนาที่ยั่งยืน และการค้าที่เป็นธรรม
ชื่อของไบโอไทยเกิดขึ้นเมื่อปี 2538 เพื่อเป็นชื่อ เรียกสั้นๆ เป็น ภาษาอังกฤษของ “เครือข่ายสิทธิ ภูมิปัญญาไทย” (Thai Network on Community Rights and Biodiversity) ซึ่งเป็นเครือข่ายของกลุ่มบุคคล ที่ทำงานเกี่ยวกับประเด็นความหลากหลายทางชีวภาพ และ ภูมิปัญญา ท้องถิ่นในประเทศไทย โดยงานสำคัญในระยะแรกของ ไบโอไทยคือการ วิเคราะห์และเผยแพร่เนื้อหาของอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทาง ชีวภาพในแง่มุมต่างๆต่อสาธารณชน การผลักดัน กฎหมายคุ้มครอง ทรัพยากรพันธุกรรม และ ภูมิปัญญา การแพทย์ แผนไทย
การจัดประชุมระหว่างประเทศและประสานงานระหว่างประเทศเพื่อ สนับสนุนให้มีการออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของเกษตรกรและชุมชนในทรัพยากรชีวภาพในประเทศโลกที่สามรวมถึงการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักในปัญหาการแย่งชิงทรัพยากรพันธุกรรมโดยบรรษัทข้ามชาติและประเทศอุตสาหกรรม ในปี 2542 ไบโอไทยได้จัดตั้งเป็นองค์กรขึ้นอย่างถาวรเพื่อสนับสนุนการทำงาน ของเครือข่าย โดยใช้ชื่อว่า “องค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทย” (Biodiversity & Community Rights Action Thailand)
เนื่องจากงานเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นนั้น ได้ขยายออกไปกว้างขวาง มากขึ้น สมควรที่จะมีองค์กรที่สนับสนุนทางด้านข้อมูล วิชาการ และอื่นๆแก่เกษตรกร ชุมชนท้องถิ่น และเครือข่ายที่ทำงานเกี่ยวข้องในประเด็นดังกล่าวอย่างถาวร ไบโอไทยได้ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิ อย่างเป็นทางการเมือปี 2549 ภายใต้ชื่อ “มูลนิธิชีววิถี” โดยคงชื่อภาษาอังกฤษว่า “ไบโอไทย” (BioThai) เพื่อสืบทอด สายธารแห่งการทำงานเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เริ่มต้นมา ตั้งแต่ปี 2538 แม้ว่าในระยะหลังบทบาทของไบโอไทย ได้ขยายวงไปสู่ประเด็นที่กว้างขวางมากขึ้น เช่น ความมั่นคงทางอาหาร การติดตามบทบาทบรรษัท และการค้าที่เป็นธรรม เป็นต้น
ล่าสุดไบโอไทยได้ปรับชื่อ เพื่อให้สอดคล้องกับกรอบงานมากขึ้นเป็น “เครือข่ายปฏิบัติการเพื่อ ความหลากหลายทางชีวภาพ เกษตรกรรม ยั่งยืน และอธิปไตยทางอาหาร ประเทศไทย”(Biodiversity and Food Sovereignty
Action Thailand- BIOTHAI)
ประวัติความเป็นมา
วัตถุประสงค์ขององค์กร
ศึกษาวิจัยด้านทรัพยากรชีวภาพ เกษตรกรรม อาหาร สิทธิเกษตรกรและชุมชน
ส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ ทรัพยากรชีวภาพ เกษตรกรรม อาหาร สิทธิเกษตรกรและชุมชนแก่ประชาชนทั่วไป
เสนอแนะและพัฒนานโยบายสาธารณะที่ เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรการพัฒนา เศรษฐกิจ วัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาสังคม อย่างยั่งยืน
กิจกรรมสำคัญ
- สนับสนุนบทบาทและความเข้มแข็งของเกษตรกร ชุมชนท้องถิ่น และเครือข่ายภาค ประชาชน ในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนา และใช้ประโยชน์ อย่างยั่งยืนจาก ทรัพยากรชีวภาพ ปัจจุบันมูลนิธิได้ทำงานร่วมกับองค์กร ภาคี ต่างๆเพื่อให้การสนับสนุนชุมชนมากกว่า 400 ชุมชน ทั่วทุกภาคของประเทศไทย เพื่ออนุรักษ์ และฟื้นฟูระบบ นิเวศ ฟื้นฟู และ พัฒนาการใช้ประโยชน์พันธุกรรมข้าว ผักพื้นบ้าน ไม้ผลเมืองร้อน เพื่อยกระดับการพึ่งพาตนเอง และความมั่นคงทางอาหาร
- ร่วมกับชุมชนและเครือข่ายต่างๆรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับอาหารท้องถิ่น เช่น สูตร น้ำพริก อาหารจากถั่ว อาหารจากผักพื้นบ้าน ฯลฯ ขับเคลื่อน การรณรงค์ภายใต้ชื่อ “กินเปลี่ยนโลก” หรือ “Food for Change” เพื่อให้ผู้บริโภคตระหนักและเปลี่ยนวิถีการ บริโภคมาสนับสนุน วิถีการผลิตของชุมชน ท้องถินที่อนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติ มีระบบ การผลิตที่ยั่งยืน คำนึงถึงสุขภาพและสิ่งแวดล้อม สร้างความเท่าเทียมและเกื้อกุลระหว่าง เกษตรกร/ชุมชนท้องถิ่นกับผู้บริโภค
- รณรงค์และเผยแพร่ปัญหาผลกระทบต่อทรัพยากรชีวภาพ เช่น การเคลื่อนไหวต่อต้าน “โจรสลัดชีวภาพ” เช่น กรณีการจดสิทธิบัตร ข้าวหอมมะลิไทย ติดตามและตรวจสอบ ผลกระทบของพันธุวิศวกรรมต่อระบบเกษตรและอาหาร ในกรณีการปนเปื้อนทาง พันธุกรรม ของพืชดัดแปลงพันธุกรรม เช่น ฝ้ายบีที มะละกอ จีเอ็มโอ ต้านทานโรคใบด่าง จุดวงแหวน ข้าวโพดบีที และถั่วเหลืองราวด์อับเรดดี้ โดยรายงานสถานการณ์ และปัญหา ดังกล่าวต่อสาธารณชนและ สื่อมวลชนอย่างสม่ำเสมอนับตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน
- ขับเคลื่อนและผลักดันให้เกิดนโยบายและกฎหมายเพื่อคุ้มครองทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยใช้ กฎหมายที่มีลักษณะเฉพาะ (sui generis) เช่น พ.ร.บ.คุ้มครอง พันธุ์พืช พ.ศ.2542 พ.ร.บ.คุ้มครอง และส่งเสริม ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 คัดค้านนโยบายการปลูกพืชจีเอ็มโอในเชิงพาณิชย์ และการทดลองในสภาพเปิดที่ขาดการ ควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ
- ร่วมก่อตั้ง “กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเส รีภาคประชาชน” หรือ “เอฟทีเอว็อทช์” เมื่อปี 2547 ร่วมกับ องค์กรพัฒนาเอกชน นักวิชาการ และองค์กรภาคประชาชน เพื่อติดตาม และเคลื่อนไหวปัญหาของการ เปิดเสรีการค้า ที่มีผลกระทบต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และ ผู้ประกอบการ รายย่อย และร่วมก่อตั้งกลุ่ม “ติดตามบทบาทบรรษัท” เพื่อสร้างความ ตระหนักเกี่ยวกับปัญหาของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีกิจกรรมซึ่งสร้างผลกระทบต่อสังคมและ สิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและความมั่นคงทางอาหาร
- ร่วมมือกับองค์กรภาคประชาสังคมในประเทศต่างๆเพื่อสร้างความร่วมมือของประชาชนและความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายระหว่างประเทศที่เกียวกับประเด็นความหลากหลายทางชีวภาพ เกษตรกรรมยั่งยืน การค้าที่เป็นธรรม และการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ
Biodiversity and Food Sovereignty
Action Thailand
องค์กรที่สนับสนุนทุนในการดำเนินงานของมูลนิธิ
นับตั้งแต่ก่อตั้งองค์กรเมื่อปี 2538 เป็นต้นมา ไบโอไทยได้รับการสนับสนุน
ทุนในการดำเนินกิจกรรมจากหลายองค์กร ทั้งในและต่างประเทศ ดังนี้
หน่วยงานในประเทศ ได้แก่ - สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.), กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ,โครงการพัฒนาองค์ความรู้และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพในประเทศไทย (Biodiversity Research and Training Program- BRT),สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
องค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ – Swedish Society for Nature Conservation(SSNC), OXFAM Great Britain, GRAIN , สหภาพยุโรป(EU)
งบประมาณการดำเนินงานของมูลนิธิที่ได้จากการสนับสนุนจากภายในประเทศ มีสัดส่วนประมาณ 85% ของงบประมาณทั้งหมด
นอกเหนือจากองค์กรดังกล่าวแล้ว ยังมีเงินบริจาคจากประชาชนทั่วไปเพื่อสนับสนุน กิจกรรมต่างๆ เช่น สิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ สื่อรณรงค์ต่างๆ เป็นต้น นับตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา