ไม้ยืนต้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในระบบการปลูกพืชของประเทศเขตร้อน ซึ่งเดิมพื้นที่เกษตรกรรมส่วนใหญ่ล้วนเคยเป็นเป็นป่ามาก่อน
มีวิธีการหลากหลายวิธีในการฟื้นฟูระบบนิเวศเกษตรโดยเพิ่มไม้ยืนต้นกลับเข้าไปสู่พื้นที่ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของแมลงที่เป็นประโยชน์ ให้ร่มเงา กันลม ดูดแร่ธาตุอาหารระดับลึกมาเป็นปุ๋ยธรรมชาติแก่พืชปลูก ใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้ สมุนไพร หรือเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ มากน้อยแตกต่างๆกัน แล้วแต่การคัดเลือกชนิดไม้ยืนต้นที่ปลูก ระบบการปลูก และการจัดการ
ตัวอย่างที่นิเวศเกษตรยกมาให้เห็น เป็นตัวอย่างทั้งในประเทศไทย และประเทศเขตร้อนอื่นๆ ทั้งที่เป็นระบบการจัดการแบบใหม่ และระบบแบบดั้งเดิม
สามารถนำมาปรับใช้ในแต่ละภูมินิเวศ และจัดการให้เหมาะสมกับสภาพทางกายภาพ เศรษฐกิจ และปัจจัยอื่นๆ
แต่ละแนวทางล้วนมีข้อดี ข้อจำกัด และควรค้นคว้า ศึกษา เพราะการปลูกไม้ยืนต้นต้องอาศัยเวลาและการจัดการที่เหมาะสม
ไม่มีรูปแบบสำเร็จรูปใดๆที่เหมาะสมกับพื้นที่ของเรา เท่ากับรูปแบบ/ระบบที่ปรับปรุงพัฒนาขึ้นในพื้นที่ของเราเอง

เหมาะกับที่นาน้ำน้อย หรือจัดการระบายน้ำได้ดี ถ้าน้ำท่วมสูง ต้องไปใช้ระบบยกร่องแบบสวนทุเรียนเมืองนนท์ ซึ่งมีคันโอบสูงเกินระดับน้ำท่วมใหญ่ป้องกันไว้อีกชั้นหนึ่ง

ชั่งผลประโยชน์ที่ได้จากนาข้าวและไม้ยืนต้น/ไม้ผลบนคันนา เพื่อให้ได้ผลประโยชน์(ทั้งทางเศรษฐกิจและนิเวศ)จากทั้งสองทาง

ตาลเป็นตัวอย่างของไม้ยืนต้นที่เหมาะสมกับผืนนา ระบบรากลึกแต่ไม่แผ่กว้าง ลำต้นสูง ร่มเงาน้อย อายุยืนยาว
หัวใจอยู่ที่การจัดการเพื่อให้ได้ประโยชน์จากตาลให้มากที่สุดในยุคสมัยปัจจุบัน

ประโยชน์สำคัญที่สุดคือการเก็บเนื้อไม้ไว้ใช้งานในระยะยาวอย่างถาวรในนา และบริการทางนิเวศอื่นๆ
การจัดการ เช่น ตัดสาง ไปจนถึงการจัดการลิดกิ่งก้านมีความจำเป็นเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อผลผลิตข้าว

ในภาพเป็นการปลูกตามร่องคูคลองในนา เป็นการช่วยรักษาคันคลอง และในด้านหนึ่งก็เป็นการตัดระบบรากที่จะไปรบกวนนาข้าวอีกแปลงได้ด้วย


ภาพและข้อมูล : บ้านสวนธนาคารดิน-เกษตรพอใจ
อ่านประสบการณ์เพิ่มเติมได้ที่นี่
https://www.facebook.com/photo?fbid=804801808107283&set=a.606474364606696


รากที่ลึกกว่าของกระถินก็ช่วยนำแร่ธาตุชั้นล่างมาไว้บนดิน ผ่านการร่วงหล่นหรือการตัดกิ่งใบมาคลุมผิวดินบริเวณปลูกพืชไร่ เช่น ข้าวโพด เป็นต้น





การปลูกสะตอเป็นแนวกันลม แนวรั้ว หรือปลูกเป็นแถวสลับกับมันสำปะหลัง/พืชไร่ เป็นแนวทางที่จะกลายเป็นระบบการปลูกพืชสำคัญ ที่สร้างความยั่งยืนให้มากขึ้นกับการปลูกพืชไร่ในอีสานและพื้นที่อื่นๆในอนาคต

มีพืชอื่นอีกมากมายที่สามารถปลูกร่วมกับยางพาราได้ เช่น ระกำ สละ หวาย หรือไม้ผลอื่นๆ
เมื่อราคายางพาราตกต่ำ ไม่ว่าจะในปัจจุบันหรืออนาคต พืชแซมระหว่างร่องยางจะกลายเป็นพืชหลักต่อไป


การปลูกกาแฟแบบใต้ร่มเงา ( Shade-grown coffee) แม้จะให้ผลผลิตช้า แต่ได้กาแฟที่มีคุณภาพ และยั่งยืนกว่า
เทรนด์การบริโภคกาแฟและอื่นๆของผู้บริโภคจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับระบบการปลูกพืชที่ยั่งยืนมากขึ้นๆเป็นลำดับ
ในประเทศไทยมีไม้ยืนต้นตระกูลถั่วเป็นจำนวนมากที่สามารถนำมาปลูกเพื่อให้ร่มเงา และให้ผลผลิตไปด้วย


ทองหลางให้ร่มเงา ให้ปุ๋ยธรรมชาติ บังลม รักษาคันดินยกร่อง และยังเป็นที่อยู่ของแมลงที่มีประโยชน์ สำหรับทุเรียน
ชื่อเสียงของทุเรียนนนท์ แยกไม่ออกจากไม้พี่เลี้ยงอย่างทองหลางในระบบยกร่อง

ในอนาคตเมื่อผู้คนบนโลกตระหนักเกี่ยวกับความสำคัญของระบบนิเวศเขตร้อนมากกว่านี้ สวนเกษตรสมรมอาจเป็นรูปแบบเกษตกรรมในอนาคตหลักของประเทศก็เป็นไปได้