จับตาคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งแต่งตั้งโดยคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 71/2557 เตรียมการเปิดเสรีการปลูกป่า และเปิดเสรีให้นักลงทุนนอกอาเซียนได้สิทธิเฉกเช่นพลเมืองไทย

โดยในเวลา 08.30 น. วันที่ 19 มีนาคม 2558 นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น 2 อาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล

สาระสำคัญในการประชุมจะมีสองประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อย วิสาหกิจท้องถิ่น การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และอธิปไตยของประเทศ ได้แก่

  1. การเตรียมการเปิดเสรีการปลูกป่า โดยจะให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนในกิจการปลูกป่าในประเทศไทยได้ในตามชนิดของไม้ที่กรมป่าไม้จะนำเสนอต่อที่ประชุม ทั้งนี้โดยเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2558 นี้ การอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาปลูกป่าได้ จะเป็นการสร้างความขัดแย้งและความเหลื่อมล้ำเกี่ยวกับการใช้ที่ดินในสังคมให้มากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะมีประชาชนนับล้านครอบครัวที่อาศัยอยู่ในเขตป่าและอีกนับล้านคนที่ไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง การเปิดเสรีและส่งเสริมการลงทุนปลูกป่าโดยต่างชาติ ที่แท้คือการให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ ปลูกไม้ยืนต้นเชิงเดี่ยวเพื่ออุตสาหกรรม ทั้งๆที่เรามีทางเลือกที่ดีกว่าในการจัดสรรพื้นที่เพื่อให้เกษตรกรรายย่อย พัฒนาระบบวนเกษตร ธนาคารต้นไม้ หรือฟื้นฟูป่าชุมชน ซึ่งเกื้อกูลต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น สอดคล้องกับนิเวศป่าเขตร้อน และสร้างความเป็นธรรมทางสังคมไปพร้อมๆกัน
  2. การยกเลิกข้อสงวน เพื่อให้นักลงทุนนอกอาเซียนที่ได้ลงทุนในอาเซียน (Foreign-owned Asian-based Investors) ได้สิทธิเช่นเดียวกับพลเมืองประเทศไทย (หลักประติบัติเยี่ยงคนชาติ) การยกเลิกข้อสงวนนี้เท่ากับการใช้ความตกลงการเปิดเสรีการลงทุนอาเซียน (ACIA-Asian Comprehensive Investment Agreement) เปิดเสรีให้กับนักลงทุนทั่วโลกนั่นเอง การเปิดเสรีการลงทุนเช่นนี้เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะแม้แต่ประเทศอุตสาหกรรมหลายประเทศก็คัดค้านเรื่องนี้ เมื่อมีความพยายามที่จะผลักดันให้การเปิดเสรีการลงทุนเข้าไปอยู่ในกรอบการเจรจา WTO

หากการผลักดันให้มีการเปิดเสรีการลงทุนในสองประเด็นดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ รัฐบาลชุดนี้จะได้ชื่อว่าเป็นรัฐบาลที่เปิดเสรีการลงทุนให้ต่างชาติมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาล 2 ชุดที่ผ่านมา

อนึ่ง “คณะกรรมการศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน” มีกรรมการซึ่งประกอบไปด้วย ทหาร ปลัดกระทรวงต่างๆ และภาคธุรกิจ เช่น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ตามลิงค์นี้

http://www.thaigov.go.th/…/ncpo-ord…/item/84633-id84633.html

ที่มา: Facebook BIOTHAI