อย.เตรียมอนุญาตนำเข้ายากัญชาจากบริษัทยาต่างชาติ โดยไบโอไทยคาดว่ายาที่อย.อนุญาตนำเข้าจากต่างประเทศคือ Sativex และ Epidolex ยารักษาโรคปวดเรื้อรังและโรคลมชักของบริษัท GW Pharma เจ้าเก่า ซึ่งยื่นขอรับสิทธิบัตรกัญชามากที่สุด แต่ภาคประชาสังคมและนักวิชาการเคลื่อนไหวคัดค้านจนต้องยกเลิกคำขอทั้งหมดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
1) ในขณะที่ตำรับยาน้ำมันกัญชาสูตรอาจารย์เดชา ศิริภัทร ซึ่งผลิตและแจกจ่ายแก่ประชาชนโดยไม่หวังผลตอบแทนยังไม่ได้รับการรับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข และโครงการร่วมในการผลิตยากัญชาเพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ป่วยในรูปโครงการวิจัยที่ทำร่วมกับคณะเภสัชฯ ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ขอนแก่น และ ม.รังสิต ยังไปไม่ถึงไหนเพราะยังไม่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการในกระทรวงสาธารณสุข
2) ล่าสุดอย.เตรียมเร่งนำเข้ายากัญชาจากต่างประเทศ โดยอ้างว่าเพื่อให้ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง เพราะผลผลิตที่ได้ตามกฎหมายยังไม่เพียงพอกับความต้องการ (http://news.ch3thailand.com/local/95514)
3) ทั้งนี้เพราะองค์การเภสัชกรรมสามารถผลิตน้ำมันกัญชาล็อตแรกได้เพียง 2,500 ขวด (ขวดละ 6 ซีซี) โดยจะผลิตได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2562 และตลอดปีแรกสามารถผลิตได้เพียง 10,000 ขวดเท่านั้น (https://health.kapook.com/view210323.html)
4) หากมีการนำเข้ายากัญชาจากต่างประเทศ คาดว่าการนำเข้ากัญชาจะถูกนำเข้ามาเพื่อใช้รักษาโรคที่อย.ประกาศว่ากัญชาสามารถใช้ในการรักษาโรคได้เพียง 4 โรคเท่านั้นได้แก่ ลมชักในเด็ก กล้ามเนื้อเนื้อแข็ง ผู้ป่วยมะเร็งที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการได้รับยาเคมีบำบัด และปวดเรื้อรัง (https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2205926)
5) การนำเข้ายาจากกัญชาตามมาตรฐานของอย.ต้องเป็นยาจากบริษัทยาที่ผ่านการรับรองจาก FDA ของต่างประเทศเท่านั้น เพราะหากนำเข้าน้ำมันกัญชาจากแหล่งอื่นๆ อย.จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะไม่ยอมรับรองน้ำมันกัญชาจากผู้ผลิตในประเทศแต่กลับนำเข้าจากต่างชาติ
6) ภายใต้เหตุผลในข้อ 4) และ 5) ยาจากกัญชาที่ได้รับการรับรองโดย FDA ในต่างประเทศมีเพียง 2 ตำรับเท่านั้น คือ Sativex (หรือ Nabiximols) สำหรับรักษาโรคปวดเรื้อรัง (ปวดปลายประสาทและปวดจากโรคมะเร็ง) และ Epidolex ซึ่งรักษาโรคลมชัก( Dravet and Lennox-Gastaut syndromes)
(http://ir.gwpharm.com/news-releases/news-release-details/epidiolexr-cannabidiol-oral-solution-first-fda-approved-plant)
(https://www.gwpharm.com/healthcare-professionals/sativex)
7) ผู้เป็นเจ้าของยาทั้ง 2 ชนิดดังกล่าวคือบริษัท GW Pharma บริษัทซึ่งยื่นขอสิทธิบัตรกัญชาร่วมกับบริษัท Otzuka ในประเทศไทยมากที่สุด ครอบคลุมการใช้กัญชาในการรักษาโรคลมชัก จิตประสาท มะเร็ง เป็นต้น อย่างไรก็ตามคำขอสิทธิบัตรทั้งหมดได้ถูกรัฐบาลเพิกถอน หลังการเคลื่อนไหวคัดค้านของนักวิชาการและภาคประชาสังคม เนื่องจากเป็นคำขอที่ขัดมาตรา 9(5) เพราะกัญชายังคงเป็นยาเสพติดตามกฎหมายไทยในระหว่างที่มีการยื่นคำขอ
(http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/825460)
กลิ่นการผูกขาดกัญชากำลังโชยมา หมอพื้นบ้านยังไม่สามารถผลิตและแจกจ่ายยาจากกัญชาได้ เพราะเงื่อนไขที่ถูกกำหนดโดยอย.เหมือนจะเปิดทางไว้สำหรับบริษัทยากัญชาต่างชาติ GW Pharma เหมือนหนังม้วนเก่าเรื่องสิทธิบัตรกัญชากลับมาวนฉายซ้ำ แต่เปลี่ยนคนเขียนพล็อตจากกรมทรัพย์สินทางปัญญามาเป็นอย.แทน
ที่มา: Facebook BIOTHAI
Photo Cradit : Outlook – Releaf